หลายคนอาจจะสงสัยว่าการลงทุนในหุ้นจริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่ เพราะภาพแรกที่เรามักจะคิดกันว่าการลงทุนในหุ้นนั้นมันคือการนั่งเฝ้าหน้าจอดูกราฟแล้วก็ซื้อๆขายๆตัวย่อของหุ้น…ผิดถนัดครับ!
จริงๆแล้วหุ้นนั้นมันคือส่วนของความเป็นเจ้าของของกิจการนั้นๆที่เราเอาเงินไปซื้อหุ้นเพื่อร่วมลงทุนกับเค้าต่างหากครับ
พอเข้าใจแบบนี้แล้วเราจะพบว่าหุ้นนี่แหละคือสิ่งที่จะช่วยให้มนุษย์เงิน หรือคนทั่วๆไปสามารถที่จะทำกำไรรวมถึงสร้าง Passive Income ที่แท้จริง แบบที่แทบจะไม่ต้องทำอะไรมากได้จริงๆ
จากปันผลที่กิจการนั้นจ่ายให้เราในทุกๆปี และมันก็ช่วยตอบคำถามที่ว่า….ในวันที่เราเกษียณจากงานประจำ เราจะหารายได้มาจากไหน?
วันนี้ผมเลยจะชวนมือใหม่มารู้จักกับวิธีเริ่มต้นลงทุนในหุ้นแบบ Step by Step กับครับ
Step 1: ตั้งเป้าหมายในการลงทุน
ก่อนที่จะเริ่มทำอะไรเราก็ต้องรู้ก่อนว่าเราจะไปที่ไหน ไม่ใช่ว่าเราอยากจะขึ้นดอยสุเทพ แต่เราดันขับรถออกจากกรุงเทพฯ โดยมุ่งหน้าไปที่ถนนเพชรเกษม แล้วมันจะถึงมั้ย…
ดังนั้นเป้าหมายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ เช่น… เราตั้งใจลงทุนในหุ้นเพื่อเอาปันผลไว้ใช้ในยามเกษียณ หรือเราตั้งใจลงทุนในหุ้นเพื่อสร้างกระแสเงินสดเพื่อเอาไว้กินใช้ต่อเดือนตอนนี้เลย
เพราะวิธีหรือหลักการมันจะแตกต่างกัน พอเราเห็นเป้าหมายชัด เราจะได้ขับรถไปยังถนนสู่เป้าหมายเส้นที่มันถูกต้องนั่นเองครับ
Step 2: ศึกษาหาความรู้
นี่เป็นเรื่องที่สำคัญลำดับถัดมาเลยครับ เพราะความรู้จะช่วยให้ความเสี่ยงลดลง มันไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆครับ ไม่งั้นพวกเราก็รวยกันหมดประเทศไปแล้วจริงมั้ย?
เราเรียนกันมาตั้งหลายปี ตั้งแต่ประถม มัธยม จนมหาวิทยาลัย เพื่อเอาความรู้มาประกอบอาชีพ แล้วจะเรียนอีกซักหน่อยจะเป็นอะไรไปล่ะ แถมมันใช้สร้างผลตอบแทนจากหุ้นให้เราตลอดชีวิตอีก หาความรู้เถอะคุ้มแน่ๆครับ
Step 3: เปิดบัญชีหุ้น
เพราะการลงทุนในหุ้นนั้น ตลาดหุ้นเค้าไม่ได้ติดต่อกับนักลงทุนแบบเราโดยตรง เค้าใช้วิธีผ่านคนกลางที่เรามักจะเรียกกันว่าโบรกเกอร์ นั่นแหละ
เราก็เลยต้องมีบัญชีที่เอาไว้ซื้อขายหุ้นครับ ในบ้านเรามีโบรกเกอร์อยู่มากมาย แถมวิธีเปิดบัญชีก็ไม่ยุ่งยาก จริงๆเรียกว่าง่ายพอๆกับเปิดบัญชีเงินฝากของธนาคารเลย
Step 4: เติมเงิน
มีความรู้ มีบัญชีหุ้น แต่ไม่ได้ใส่เงินเข้าไป แล้วเงินมันจะไปทำงานให้เราได้ยังไงจริงมั้ยฮะ แต่สิ่งที่ผมอยากจะเน้นย้ำก็คือ เงินที่จะเอามาลงทุนก้อนนี้นั้น…
จะต้องเป็นเงินที่ตัดออกจากชีวิตได้นะครับ หมายความว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรยังไง เงินในพอร์ตหุ้นเราต้องไม่ไปยุ่งกับมัน…
อ้าว…แล้วถ้าเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ? แปลว่าก่อนที่จะเริ่มต้นลงทุนในหุ้นนั้น เราจะต้องมีเงินสำรองฉุกเฉิน 3-6 เท่าของรายได้ต่อเดือนของเราแล้ว รวมถึงมีประกันเพื่อเอาไว้จัดการความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น (ดูได้จากบทความที่ผมเคยเขียนไว้ได้ครับ)
ที่เราทำแบบนี้นั้น เพื่อให้เงินลงทุนของเราได้ทำงานอย่างเต็มที่นั่นเอง ไม่งั้นเดี๋ยวๆต้องถอนเงินลงทุนออกมา ในขณะที่มันยังไม่กำไร หรือบางครั้งขาดทุนอยู่(เนื่องจากวิกฤตใหญ่ต่างๆ ที่เราป้องกันไม่ได้ อย่างเช่น สงคราม หรือโรคระบาดที่ผ่านมา)
Step 5: เลือกหุ้นดี
เลือกหุ้น…ก็เหมือนเลือกแฟน เราต้องรู้จักคบหาดูใจ เข้าใจในกิจการรวมถึงแนวโน้มว่ากิจการนี้อนาคตมีโอกาสจะเติบโตมั้ย…
ฟังแล้วอาจจะเหมือนยุ่งยาก แต่เอาจริงๆเชื่อมั้ยครับว่าเราทุกคนมีความชำนาญในหุ้นแต่ละอุตสาหกรรมกันอยู่แล้ว จากงานปัจจุบันที่ทำ หรือความสนใจในเรื่องบางเรื่องของเรานี่ล่ะครับ
อย่างผมเคยทำงานในวงการโทรคม ผมก็จะรู้เรื่องความเป็นไปเป็นมาอัพเดทเรื่องราวของวงการนี้ แบบที่ไม่ได้ต้องไปศึกษาอะไรเพิ่มเติมมากนัก เพราะทำงานอยู่กับมันทุกวัน
หรือตัวอย่างสาวๆที่สนใจกระเป๋าแบรนด์เนม เชื่อมั้ยล่ะว่า คุณมีความรู้เรื่องวิธีดูความเป็นของแท้ หรือราคากลางที่ควรจะเป็นเวลาขายต่อ มากกว่าหนุ่มๆในประเทศนี้นัก นี่แหละครับหุ้นในกลุ่มที่เราถนัดไม่ต้องไปควานหาที่ไหน…
Step 6: เริ่มต้นซื้อหุ้นตัวแรก
มีความรู้ มีบัญชีหุ้น มีเงินลงทุนเรียบร้อย เราก็เริ่มซื้อหุ้นกันเถอะ…เอาจริงๆ ผมเคยทำข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นย้อนหลังวัดผลในช่วงทุกๆ 10 ปี พบว่า…
หากเราซื้อหุ้นของบริษัทใหญ่ๆ ที่เรารู้จักและชื่นชอบในสินค้าหรือบริการของพวกเค้าในวันนั้น…แล้วถือมาจนครบ 10 ปี ร้อยละ 70%-80% ของหุ้นเหล่านั้นมักจะเคยเติบโตเกิน 1 เท่าตัวเสมอครับ (บางตัวโตกันเป็น 10 เท่าตัวก็มี)
แต่แน่นอน…เพราะความรู้ทำให้ความเสี่ยงลดลง พอเรามีความรู้ เราก็จะหาจังหวะซื้อหุ้นในต้นทุนที่ดีขึ้น และสร้างกำไรรวมถึงปันผลที่มากขึ้นในระยะยาวได้ด้วย
ฟังดูถึงตรงนี้อาจจะดูง่าย…แต่นี่ล่ะครับ ตามหลักการมันดูง่าย แต่จะมีซักกี่คนที่ทนรวยถือรอถึงวันที่หุ้นมันเติบโต 1 เท่าได้บ้าง
สุดท้าย…ประสบการณ์มันจะช่วยให้เราค่อยๆเข้าใจสิ่งที่ผมเล่าให้วันนี้ครับ ไม่ต้องรอให้พร้อม 100% เพราะไม่งั้นชาตินี้เราไม่ต้องทำอะไรกันพอดี…
Step 7: หมั่นตรวจสอบสม่ำเสมอ
การลงทุนในหุ้นนั้น เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อเติบโตไปกับกิจการที่เราเลือกลงทุน ดังนั้นการตรวจสอบว่าหุ้นที่เราถืออยู่ มันยังเป็นเทรนด์ที่เติบโตอยู่มั้ย กำลังจะถูก Disrupt หรือเปล่า?
เราอาจจะดูจากงบการเงินที่ออกทุกไตรมาส ว่าเฮ้ย…กิจการยังทำกำไรเติบโตดีสม่ำเสมอมั้ย? ถ้าไม่ มันเกิดจากอะไร เป็นวิกฤตชั่วคราวหรือเป็นแบบถาวร(เจ๊งจริงๆ) ถ้ายังดีอยู่ก็ถือต่อได้ แต่ถ้าเริ่มไม่ดีแล้วเราจะได้พิจารณาว่าจะขายออกหรือยังไงต่อดี…
บทสรุป…
ในช่วงแรกๆ เราอาจจะรู้สึกว่าการลงทุนในหุ้นนั้นเป็นเรื่องที่ดูซับซ้อนวุ่นวาย… แต่หากคุณค่อยๆทำตาม 7 ขั้นตอนนี้ ผมเชื่อว่าคุณจะเริ่มต้นลงทุนหุ้นได้อย่างมั่นใจ…
รวมถึงรู้จักอดทนรอให้เวลามันช่วยทำให้ผลตอบแทนของหุ้นที่เราเลือกมันเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มือใหม่ก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในหุ้นได้อย่างแน่นอนครับ
สอบถามพูดคุยกับผม
หากมีข้อสงสัย อยากสอบถามเพิ่มเติมสามารถเข้ากลุ่ม Line “มือใหม่หัดเล่นหุ้น” ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้ครับ
เข้ากลุ่ม LINE มือใหม่หัดเล่นหุ้น
แล้วพบกันในห้อง Line ครับ…
Coach Champ